enjoy35334
หน้าเว็บ
หน้าแรก
Project
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555
งานนำเสนอ 1
ไฟล์วีดีโอนี้ ประกอบการเรียน ใน ชั่วโมง เรียน วิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร
จัดทำโดย
ด.ญ.ปาริชาต เจริญวงศ์พิสิฐ ม.3/7 เลขที่ 44
วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา
เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์อธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดช่วงฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา
3
เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น
"
เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน
โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด
3
เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม
1
ค่ำ เดือน
8
ของทุกปี เรียกว่า
"
ปุริมพรรษา"
ถ้าปีใดมีเดือน
8
สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม
1
ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น
15
ค่ำ เดือน
11
เรียกว่า
"
ปัจฉิมพรรษา"
เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน
7
คืน เรียกว่า
"
สัตตาหะ"
หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด
สำหรับข้อยกเว้นให้ภิกษุจำพรรษาที่อื่นได้ โดยไม่ถือเป็นการขาดพรรษา เว้นแต่เกิน
7
วัน ได้แก่
1.
การไปรักษาพยาบาลภิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย
2.
การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิให้สึกได้
3.
การไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น การไปหาอุปกรณ์มาซ่อมกุฏิที่ชำรุด
4.
หากทายกนิมนต์ไปทำบุญ ก็ไปฉลองศรัทธาในการบำเพ็ญกุศลของเขาได้
นอกจากนี้หากระหว่างเดินทางตรงกับวันหยุดเข้าพรรษาพอดี พระภิกษุสงฆ์เข้ามาทันในหมู่บ้านหรือในเมืองก็พอจะหาที่พักพิงได้ตามสมควร แต่ถ้ามาไม่ทันก็ต้องพึ่งโคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม ชาวบ้านเห็นพระได้รับความลำบากเช่นนี้ จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน รวมกันหลาย ๆ องค์ ที่พักดังกล่าวนี้เรียกว่า "วิหาร" แปลว่า ที่อยู่สงฆ์ เมื่อหมดแล้ว พระสงฆ์ท่านออกจาริกตามกิจของท่านครั้ง ถึงหน้าฝนใหม่ท่านก็กลับมาพักอีก เพราะสะดวกดี แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็เลือกหาสถานที่สงบเงียบไม่ห่างไกลจากชุมชนนัก สร้างที่พัก เรียกว่า "อาราม" ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ดังเช่นปัจจุบันนี้
ทั้งนี้ โดยปกติเครื่องใช้สอยของพระตามพุทธานุญาตให้มีประจำตัวนั้น มีเพียงอัฏฐบริขาร อันได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ เข็ม บาตร รัดประคด หม้อกรองน้ำ และมีดโกน และกว่าพระท่านจะหาที่พักแรมได้ บางทีก็ถูกฝนต้นฤดูเปียกปอนมา ชาวบ้านที่ใจบุญจึงถวายผ้าอาบน้ำฝนสำหรับให้ท่านได้ผลัดเปลี่ยน และถวายของจำเป็นแก่กิจประจำวันของท่านเป็นพิเศษในเข้าพรรษา นับเป็นเหตุให้มีประเพณีทำบุญเนื่องในวันนี้สืบมา...
อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าพรรษาจะเป็นเรื่องของพระภิกษุ แต่พุทธศาสนิกชนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำบุญรักษาศีล และชำระจิตใจให้ผ่องใส ก่อนวันเข้าพรรษาชาวบ้านก็จะไปช่วยพระทำความสะอาดเสนาสนะ ซ่อมแซมกุฏิวิหารและอื่น ๆ พอถึงวันเข้าพรรษาก็จะไปร่วมทำบุญตักบาตร ถวายเครื่องสักการะบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน และเครื่องใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน เป็นต้น พร้อมฟังเทศน์ ฟังธรรม และรักษาอุโบสถศีลกันที่วัด
บางคนอาจตั้งใจงดเว้นอบายมุขต่าง ๆ เป็นกรณีพิเศษ เช่น งดเสพสุรา งดฆ่าสัตว์ เป็นต้น อนึ่ง บิดามารดามักจะจัดพิธีอุปสมบทให้บุตรหลานของตน โดยถือกันว่าการเข้าบวชเรียนและอยู่จำพรรษาในระหว่างนี้จะได้รับอานิสงส์อย่างสูง
วันอาสาฬหบูชา
วันอาสาฬหบูชา
(
บาลี
:
อาสาฬหปูชา
;
อังกฤษ
:
Asalha Puja
)
เป็น
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ของชาวพุทธ
เถรวาท
และวันหยุดราชการใน
ประเทศไทย
[1]
คำว่า
อาสาฬหบูชา
ย่อมาจาก "อาสาฬหปูรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ" อันเป็นเดือนที่สี่ตาม
ปฏิทิน
ของ
ประเทศอินเดีย
ตรงกับ
วันเพ็ญ
เดือน
8
ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งมักจะตรงกับ
เดือนมิถุนายน
หรือ
เดือนกรกฎาคม
แต่ถ้าใน
ปีใดมีเดือน
8
สองหน
ก็ให้เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน
8
หลังแทน
วันอาสาฬหบูชาได้รับการยกย่องเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ
45
ปี ก่อน
พุทธศักราช
ในวันขึ้น
15
ค่ำ เดือน
8
คือวันอาสาฬหปุรณมีดิถี หรือวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะ
[2]
ณ
ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน
เมือง
พาราณสี
แคว้นมคธ
อันเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรกเป็นปฐมเทศนา คือ
ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
แก่ปัญจวัคคีย์
[3]
การแสดงธรรมครั้งนั้นทำให้พราหมณ์โกณฑัญญะ
1
ใน
5
ปัญจวัคคีย์
เกิดความเลื่อมใสในพระธรรมของพระพุทธเจ้า จนได้ดวงตาเห็นธรรมหรือบรรลุเป็น
พระอริยบุคคล
ระดับ
โสดาบัน
ท่านจึงขอ
อุปสมบท
ในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ด้วยวิธี
เอหิภิกขุอุปสัมปทา
พระอัญญาโกณฑัญญะ
จึงกลายเป็น
พระสงฆ์
องค์แรกในโลก และด้วยเหตุที่ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล (
อนุพุทธะ
)
เป็นคนแรก จึงทำให้ในวันนั้นมี
พระรัตนตรัย
ครบองค์สามบริบูรณ์เป็นครั้งแรกในโลก คือ มีทั้ง
พระพุทธ
พระธรรม
และ
พระสงฆ์
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วันนี้ถูกเรียกว่า "วันพระธรรม" หรือ วันพระธรรมจักร อันได้แก่วันที่ล้อแห่งพระธรรมของพระพุทธเจ้าได้หมุนไปเป็นครั้งแรก และ "วันพระสงฆ์" คือวันที่มีพระสงฆ์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก อีกด้วย
เดิมนั้นไม่มีการประกอบพิธีการบูชาในเดือน
8
หรือวันอาสาฬหบูชาในประเทศพุทธ
เถรวาท
มาก่อน จนมาในปี
พ.ศ.
2501
การบูชาในเดือน
8
หรือวันอาสาฬหบูชาจึงได้เริ่มมีขึ้นในประเทศไทย ตามที่
คณะสังฆมนตรี
ได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ
พ.ศ.
2501
โดยคณะสังฆมนตรีได้มีมติให้เพิ่มวันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทาง
พุทธศาสนา
ในประเทศไทย ตามคำแนะนำของ
พระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี)
[4]
โดยคณะสังฆมนตรีได้ออกเป็นประกาศสำนักสังฆนายกเมื่อวันที่
14
กรกฎาคม
พ.ศ.
2501
[5]
กำหนดให้วันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาพร้อมทั้งกำหนดพิธีอาสาฬหบูชาขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีพิธีปฏิบัติเทียบเท่ากับ
วันวิสาขบูชา
อันเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาสากล
อย่างไรก็ตาม วันอาสาฬหบูชาถือเป็นวันสำคัญที่กำหนดให้กับวันหยุดของรัฐเพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ส่วนในต่างประเทศที่นับถือพุทธศาสนานิกายเถรวาทอื่น ๆ ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันอาสาฬหบูชาเทียบเท่ากับ
วันวิสาขบูชา
บทความที่ใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)